ประชุมคณะกรรมการ -คณะอนุกรรมการคดีปกครอง ร่วมถกกรอบและแนวทางการทำงานรองรับนโยบายเชิงรุกช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร ได้จัดประชุมคณะกรรมการสำนักงานคดีปกครอง คณะอนุกรรมการสำนักงานคดีปกครอง สภาทนายความ ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ เป็นประธานการประชุมฯ ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระต่าง ๆ โดยเฉพาะวาระพิจารณาเรื่อง นโยบายการดำเนินงาน เพื่อกำหนดกรอบและแนวทางในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ประธานที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึง การแบ่งส่วนงานของสำนักงานคดีปกครอง ซึ่งมีภารกิจอำนาจหน้าที่ในด้านการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายในคดีปกครอง เนื่องจากคดีปกครองเป็นคดีพิพาทหรือมีข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการใช้อำนาจ หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายมหาชน หรือกฎหมายปกครองและมีการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเป็นระบบการไต่สวน นอกเหนือจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทางคดีที่คู่กรณีเสนอต่อศาล แล้วศาลที่พิจารณาพิพากษามีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะแสวงหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานได้เองตามกฎหมาย การให้คำปรึกษาหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายปกครอง จึงจำเป็นต้องจัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางกฎหมายปกครองทุกด้านที่เหมาะสมแก่ประชาชนที่มาขอรับการใช้บริการกับสภาทนายความให้มากพอตามความต้องการและทั่วถึง
นอกจากนี้ประธานในที่ประชุม ยังได้เปิดโอกาสให้แต่ละท่านเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางการทำงาน ซึ่งคณะกรรมการฯ อนุกรรมการฯ สำนักงานคดีปกครอง ได้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ อาทิ เรื่อง ระเบียบ ขอบเขต ในการรับให้ความช่วยเหลือคดีปกครอง เรื่องบุคลากร ทนายความที่ทำหน้าที่คดีปกครอง ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้บุคลากรก่อน เพื่อให้มีความรู้มาพัฒนาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และควรกลั่นกรองคดีต่าง ๆ ในส่วนสายปฏิบัติการ โดยให้มีการประชุมร่วมกันก่อนรับคดีว่าคดีที่เข้ามาควรอยู่ในส่วนใด จะได้ไม่มีผลเสียต่อกรอบระยะเวลา หรือตามเนื้อหาคดีนั้น ๆ
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้สนับสนุนโครงการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนให้ทั่วทุกภูมิภาค และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ตัวตนของสำนักงานปกครองให้เป็นที่รู้จักในสังคมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเสนอให้มีการจัดทำห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ หรือจัดทำข้อมูลคดี เช่น คำวินิจฉัยของศาลปกครอง เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานด้านคดีปกครองต่อไป